Not born to be...But born to try
ความสามารถทุกอย่างเกิดจากการฝึกหัด
ก่อนจะพูดได้ต้องหัดพูด ปาๆ มาๆ อ้อแอ้ๆ
ก่อนจะเดินได้ต้องล้มลุกคลุกคลาน
ไม่มีใครหรอกที่ทำทุกอย่างเป็นตั้งแต่อยู่ในท้องแม่
อยากเก่ง อยากดี แต่นั่งอยู่เฉยๆ คงได้แต่ฝันตลอดกาล
Ever after... but maybe not happy ending.
ใครที่ชอบพูดว่า ฉันทำไม่ได้ ฉันทำไม่เป็น
คนเหล่านั้นเป็นนักสร้างกำแพงตัวยงเลยล่ะ
กำแพงกั้นความสามารถไว้ ไม่ให้ก้าวข้ามจุดที่อยู่ไปได้
ฉันเองก็เคยเป็นหนึ่งในสมาชิกกลุ่มนักก่อกำแพงเหมือนกัน
และวันหนึ่งฉันก็คิดได้ว่ามันไม่ใช่นี่นา!
ต้องขอบคุณพี่หัวหน้าที่รักผู้คอยบอกเชิงบังคับให้ทลายกำแพงลง
แรกๆ ฉันกึ่งกล้ากึ่งกลัว ผิดแล้วผิดอีก
แต่พอเวลาผ่านไป...
ฉันรู้สึกเหมือนได้ลับมีดให้คมขึนเรื่อยๆ ด้วยการลงมือทำ
และฉันกลับรู้สึกสนุกที่จะได้ลองทำสิ่งใหม่ๆ
ฉันคิดเสมอว่า ทำผิดก็ทำใหม่ ล้มแล้วก็ลุกได้ไม่ใช่เหรอ
เวลาที่ฉันคิดเรื่องนี้ จะมีเพลงท่อนนึงดังขึ้นในหัว
"Failure is always the best way to learn,
retracing your steps untill you know,
have no fear your wounds will heal."
(Kings Of Convenience - Failure)
นั่นแหละนะ! เราต้องลอง ลงมือซะ!
เจ็บบ้างแล้วจะแข็งเกร่งเอง
แต่ก็ต้องยอมรับว่าฉันไม่ค่อยทะเยอทะยานนัก
(แม้จะเคยมาก่อน ฉันรู้สึกว่าฉันในตอนนั้นน่ารำคาญมาก ฮ่าๆ)
ในหลายด้านฉันอยากเติบใหญ่ ดีขึ้นๆ
ส่วนมากเป็นทางความคิดและความมั่นคงมากกว่า
ฉันไม่อยากเด่น ไม่อยากดัง ไม่อยากรวยล้นฟ้า
ฉันอยากเป็นคนธรรมดาที่ทำสิ่งที่ชอบได้ดี
มีความสุขกับเรื่องเล็กๆ รอบตัว หัวเราะได้ ยิ้มได้ ร้องไห้ได้
ไม่เอาความหวังของเราไปฝากไว้ที่ใครนอกจากตัวเอง
สิ่งสำคัญ ฉันอยากแข็งเข้ม เป็นต้นไม้ต้นโต๊โต
ให้คนที่ฉันรักพึ่งพึงได้ ... แค่นั้นล่ะที่ฉันฝัน
ทุกวันนี้ฉันยังเป็นต้นไม้ไซส์มิเดียม
ยังต้องรอคนมารดน้ำ ใส่ปุ๋ยบ้างเป็นบ้างครั้ง
รอวันที่ฉันจะสังเคราะห์แสงได้เองโดยอาศัยฝนและละอองน้ำรอบตัว
คงต้องพยายามกันต่อไป
Keep going ;)
ก่อนจะพูดได้ต้องหัดพูด ปาๆ มาๆ อ้อแอ้ๆ
ก่อนจะเดินได้ต้องล้มลุกคลุกคลาน
ไม่มีใครหรอกที่ทำทุกอย่างเป็นตั้งแต่อยู่ในท้องแม่
อยากเก่ง อยากดี แต่นั่งอยู่เฉยๆ คงได้แต่ฝันตลอดกาล
Ever after... but maybe not happy ending.
ใครที่ชอบพูดว่า ฉันทำไม่ได้ ฉันทำไม่เป็น
คนเหล่านั้นเป็นนักสร้างกำแพงตัวยงเลยล่ะ
กำแพงกั้นความสามารถไว้ ไม่ให้ก้าวข้ามจุดที่อยู่ไปได้
ฉันเองก็เคยเป็นหนึ่งในสมาชิกกลุ่มนักก่อกำแพงเหมือนกัน
และวันหนึ่งฉันก็คิดได้ว่ามันไม่ใช่นี่นา!
ต้องขอบคุณพี่หัวหน้าที่รักผู้คอยบอกเชิงบังคับให้ทลายกำแพงลง
แรกๆ ฉันกึ่งกล้ากึ่งกลัว ผิดแล้วผิดอีก
แต่พอเวลาผ่านไป...
ฉันรู้สึกเหมือนได้ลับมีดให้คมขึนเรื่อยๆ ด้วยการลงมือทำ
และฉันกลับรู้สึกสนุกที่จะได้ลองทำสิ่งใหม่ๆ
ฉันคิดเสมอว่า ทำผิดก็ทำใหม่ ล้มแล้วก็ลุกได้ไม่ใช่เหรอ
เวลาที่ฉันคิดเรื่องนี้ จะมีเพลงท่อนนึงดังขึ้นในหัว
"Failure is always the best way to learn,
retracing your steps untill you know,
have no fear your wounds will heal."
(Kings Of Convenience - Failure)
นั่นแหละนะ! เราต้องลอง ลงมือซะ!
เจ็บบ้างแล้วจะแข็งเกร่งเอง
แต่ก็ต้องยอมรับว่าฉันไม่ค่อยทะเยอทะยานนัก
(แม้จะเคยมาก่อน ฉันรู้สึกว่าฉันในตอนนั้นน่ารำคาญมาก ฮ่าๆ)
ในหลายด้านฉันอยากเติบใหญ่ ดีขึ้นๆ
ส่วนมากเป็นทางความคิดและความมั่นคงมากกว่า
ฉันไม่อยากเด่น ไม่อยากดัง ไม่อยากรวยล้นฟ้า
ฉันอยากเป็นคนธรรมดาที่ทำสิ่งที่ชอบได้ดี
มีความสุขกับเรื่องเล็กๆ รอบตัว หัวเราะได้ ยิ้มได้ ร้องไห้ได้
ไม่เอาความหวังของเราไปฝากไว้ที่ใครนอกจากตัวเอง
สิ่งสำคัญ ฉันอยากแข็งเข้ม เป็นต้นไม้ต้นโต๊โต
ให้คนที่ฉันรักพึ่งพึงได้ ... แค่นั้นล่ะที่ฉันฝัน
ทุกวันนี้ฉันยังเป็นต้นไม้ไซส์มิเดียม
ยังต้องรอคนมารดน้ำ ใส่ปุ๋ยบ้างเป็นบ้างครั้ง
รอวันที่ฉันจะสังเคราะห์แสงได้เองโดยอาศัยฝนและละอองน้ำรอบตัว
คงต้องพยายามกันต่อไป
Keep going ;)
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น